Header

การตรวจโรคหัวใจ

วิธีรักษาโรคหัวใจกับโรงพยาบาลพิษณุเวช

โรคหัวใจ เรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

โรคหัวใจ เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย เนื่องจากวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันที่มีพฤติกรรมเสี่ยงมากขึ้น ทั้งการรับประทานอาหาร ขาดการออกกำลังกาย ไม่ดูแลสุขภาพ โรคหัวใจบางชนิดเป็นแล้วอาจไม่รู้ตัว เนื่องจากอาการบางอย่างอาจจะคล้ายกับโรคอื่น ๆ หลายโรค เราควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคหัวใจ รวมถึงการป้องกัน วิธีการตรวจโรคหัวใจ เพื่อสำรวจตัวเองว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจหรือไม่ รวมถึงการตรวจสุขภาพเพื่อค้นเจอโรคหัวใจและรับการรักษาตั้งแต่เริ่มต้นก่อนที่จะอันตรายถึงชีวิต

 

โรคหัวใจ หมายถึง โรคต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจ โดยโรคหัวใจสามารถแบ่งย่อยได้เป็นหลายกลุ่มโรค เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคกล้ามเนื้อหัวใจ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคลิ้นหัวใจ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด และโรคติดเชื้อบริเวณหัวใจ เป็นต้น

โรคหัวใจ แล้วใครเสี่ยง?

  1. ผู้ชาย อายุมากกว่า 45 ปี
  2. ผู้หญิง อายุมากกว่า 55 ปี
  3. อ้วน หรือ น้ำหนักเกินมาตรฐาน
  4. เบาหวาน
  5. ความดันโลหิตสูง
  6. ไขมันในเลือดสูง
  7. ประวัติครอบครัว และญาติสายตรง เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
  8. สูบบุหรี่

แค่ข้อเดียว ก็เสี่ยงแล้ว รู้ทันใจกับ 7 วิธีการตรวจโรคหัวใจ

จะรู้ได้อย่างไร? ว่าเป็นโรคหัวใจ

วิธีการตรวจโรคหัวใจมีอะไรบ้าง

1. การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram : EKG)

เป็นการตรวจคลื่นไฟฟ้าที่เกิดขึ้นในกล้ามเนื้อหัว โดยจะมีรูปแบบบของคลื่นไฟฟ้าและจังหวะการเต้นของหัวใจ อาจเปลี่ยนแปลงไปตามความผิดปกติของหัวใจ การตรวจทำได้โดยการวัดคลื่นไฟฟ้าของหัวใจผ่านทางสื่อนำคลื่นไฟฟ้าขนาดเล็กที่วางไว้ตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย ได้แก่ บริเวณหน้าอก แขน และขา แล้วบันทึกกราฟแสดงคลื่นไฟฟ้าหัวใจลงบนกระดาษ

การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจเป็นการตรวจที่ง่ายและสะดวก ไม่มีอาการเจ็บปวดใด ๆ ใช้เวลาตรวจไม่เกิน 10 นาที แต่บางทีเราอาจจะไม่พบสิ่งผิดปกติในคลื่นไฟฟ้าหัวใจของผู้ที่มีปัญหาโรคหัวใจบางชนิดได้ในการตรวจตามธรรมดา เนื่องจากถ้าหัวใจไม่ได้ทำงานหนักขึ้น การปลี่ยมเปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจอาจจะไม่ยังไม่เกิดขึ้น ซึ่งอาจต้องใช้การตรวจสมรรถภาพของหัวใจขณะออกกำลังกายต่อไป

 

2. การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (Echocardiogram : Echo)

การตรวจ Echo จะทำให้เห็นการคลื่อนและการบีบตัวของหัวใจว่าปกติดีหรือไม่ ความเร็วและความดันเลือดเป็นอย่างไร ตรวจดูความพิการของหัวใจ การทำงานของลิ้นหัวใจ และโรคหัวใจชนิดอื่น ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจว่าจะใช้การรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัด ใช้ในการวินิจฉัย และพยากรณ์โรค รวมทั้งตรวจหาความรุนแรง ติดตามผลการรักษาในโรคหัวใจและหลอดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสามารถวัดขนาด และดูความสามารถในการทำงานของหัวใจ รวมถึงโครงสร้างต่าง ๆ ได้ดี

การตรวจด้วยวิธีนี้ไม่มีอันตราย ไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ ใช้เวลาในการตรวจประมาณ 20-30 นาที ใช้หลักการของการส่งคลื่นความถี่สูงไปที่บริเวณหัวใจ เมื่อกระทบส่วนต่าง ๆ ของหัวใจก็จะสะท้อนกลับมา แสดงผลเป็นเงาตามความหนาบางของเนื้อเยื่อที่เสียงไปกระทบและส่งกลับมา ทำให้ทราบถึงรูปร่างของหัวใจ ความหนาของผนังหัวใจ ความผิดปกติของลิ้นหัวใจ สามารถดูการเคลื่อนไหวของผนังหัวใจปรียบเทียบระหว่างขณะที่พักหรือนอนเฉย ๆ กับขณะที่มีการออกกำลังกาย การตรวจวิธีนี้สามารถดูได้ทั้งจากจอแสดงผล และบันทึกเก็บไว้เป็นรูปภาพ

 

3. การตรวจสมรรถภาพหัวใจขณะออกกำลังกาย (Exercise Stress Test : EST)

เป็นการตรวจสมรรถภาพของหัวใจขณะออกกำลังกายด้วยการเดินบนสายพานเลื่อน เพื่อทดสอบว่าภายใต้สภาวะที่หัวใจทำงานมากขึ้น มีความต้องการออกซิเจนจากเลือดที่หล่อเลี้ยงมากขึ้น จะมีปริมาณเลือดมาเลี้ยงเพียงพอหรือไม่ ในผู้ป่วยที่มีหลอดเลือดหัวใจตีบหรือตันเมื่อทำการทดสอบคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะแสดงสภาพของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้อย่างชัดเจน และบอกระดับความรุนแรงของโรคว่าจะต้องเข้ารับการตรวจเพิ่มเติมด้วยการสวนหัวใจแล้วหรือยัง

 

4. เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพา (Holter Monitor)

เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 24 หรือ 48 ชั่วโมง เป็นอุปกรณ์ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพาที่ติดไว้กับตัวผู้ป่วย เพื่อบันทึกการเต้นของหัวใจและตรวจหาจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะบางประเภทนั้นเกิดขึ้นเพียงครั้งคราว ทำให้การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบปกติ (EKG) ในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่สามารถตรวจพบความผิดปกตินั้นได้ ดังนั้นแพทย์จึงอาจให้ผู้ป่วยติดเครื่อง Holter monitor เพื่อตรวจจับการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติดังกล่าว

การตรวจนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่อาจมีปัญหาใจสั่นผิดปกติเป็นครั้งคราว หน้ามืดคล้ายเป็นลมอยู่เสมอ เวียนศีรษะ ใจเต้นแรงผิดปกติอยู่เป็นประจำ
 

5. การตรวจหัวใจด้วยเตียงปรับระดับ (Tilt Table Test)

เป็นการตรวจโดยใช้เตียงที่ปรีบเอียงได้ เพื่อประเมินสาเหตุของภาวะเป็นลมหมดสติ ซึ่งเป็นปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ ส่งผลให้หัวใจเต้นช้าลงและหลอดเลือดขยายตัว ความดันโลหิตลดลง เลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยและเป็นลมหมดสติในที่สุด

การตรวจด้วยวิธีนี้จะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยสาเหตุของภาวะเป็นลมหมดสติ และกำหนดแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ เนื่องจากอาการเป็นลมหมดสสติ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาทางด้านสมอง หัวใจ ความดันโลหิตต่ำ หรือความผิดปกติของระบบประสาทอัตโนมัติทำงานผิดปกติ

 

6. ตรวจภาวะเสี่ยงการอุดตันของหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (Ankle-brachial index : ABI)

เป็นการตรวจการอุดตันของหลอดเลือดแดงและความยืดหยุ่นของหลอดเลือด สามารถนำไปสู่การค้นหาโรคอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจหรือหลอดเลือดสมองตีบได้

 

7.การตรวจวัดความหนาตัวของผนังหลอดเลือดแดงที่คอ (Carotid Intima-Media Thickness : CIMT)

เป็นการตรวจวัดความหนาตัวของผนังหลอดเลือดแดงใหญ่คาโรติด (Carotid Artery) ที่อยู่บริเวณล่าคอ ใช้หลักการเดียวกับการตรวจอัลตร้าซาวด์ เพื่อคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองต้นต้น และหัวใจขาดเลือด

หากคุณมีความเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น แนะนำให้ตรวจสุขภาพหัวใจทุกปี

คลิกขอคำปรึกษา

 

 



ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์หัวใจ

ศูนย์หัวใจ

สถานที่

อาคาร 4 ชั้น 5

เวลาทำการ

09:00 - 17:00 น.

เบอร์ติดต่อ

055-90-9000 ต่อ 520101, 520102

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

มะเร็ง 5 อันดับ ที่พบบ่อยในผู้หญิง

โรคมะเร็งที่พบในผู้ป่วยรายใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก ของผู้หญิงไทย  ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งปอด มะเร็งมดลูก ซึ่งผู้หญิงทุกคนมีโอกาสเป็นได้ ถ้ารู้จักการป้องกันโรคก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
มะเร็ง 5 อันดับ ที่พบบ่อยในผู้หญิง

โรคมะเร็งที่พบในผู้ป่วยรายใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก ของผู้หญิงไทย  ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งปอด มะเร็งมดลูก ซึ่งผู้หญิงทุกคนมีโอกาสเป็นได้ ถ้ารู้จักการป้องกันโรคก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
การตรวจอุจจาระ

การตรวจอุจจาระ เป็นการตรวจที่ง่าย ขั้นตอนการตรวจไม่ยุ่งยาก ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีสูง จึงสามารถให้บริการได้ตั้งแต่ในคลินิก, ในสถานพยาบาลขนาดเล็ก, ไปจนถึงในโรงพยาบาลทุกระดับ, นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการตรวจยังไม่แพง และสามารถช่วยวินิจฉัยโรคพื้นฐานในระบบทางเดินอาหารได้หลายโรค เช่น ภาวะ/อาการอาหารไม่ย่อย, โรคพยาธิต่างๆของระบบทางเดินอาหาร, และสามารถตรวจได้ในคนทุกเพศและทุกวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิด(นิยามคำว่าเด็ก)ไปจนถึงผู้สูงอายุ, ดังนั้นจึงเหมาะที่จะเป็นการตรวจสุขภาพพื้นฐานประจำปีของทุกๆคน

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
การตรวจอุจจาระ

การตรวจอุจจาระ เป็นการตรวจที่ง่าย ขั้นตอนการตรวจไม่ยุ่งยาก ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีสูง จึงสามารถให้บริการได้ตั้งแต่ในคลินิก, ในสถานพยาบาลขนาดเล็ก, ไปจนถึงในโรงพยาบาลทุกระดับ, นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการตรวจยังไม่แพง และสามารถช่วยวินิจฉัยโรคพื้นฐานในระบบทางเดินอาหารได้หลายโรค เช่น ภาวะ/อาการอาหารไม่ย่อย, โรคพยาธิต่างๆของระบบทางเดินอาหาร, และสามารถตรวจได้ในคนทุกเพศและทุกวัย ตั้งแต่เด็กแรกเกิด(นิยามคำว่าเด็ก)ไปจนถึงผู้สูงอายุ, ดังนั้นจึงเหมาะที่จะเป็นการตรวจสุขภาพพื้นฐานประจำปีของทุกๆคน

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
‘ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน’ ภัยเงียบที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น

ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest) คือ ภาวะที่หัวใจทำงานผิดปกติ จนไม่มีการบีบตัวหรือหยุดเต้นทันที โดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า

blank ดร.นพ.กิติกร วิชัยเรืองธรรม อายุรแพทย์โรคหัวใจ รพ. พิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
‘ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน’ ภัยเงียบที่มาพร้อมกับอายุที่มากขึ้น

ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน (Sudden Cardiac Arrest) คือ ภาวะที่หัวใจทำงานผิดปกติ จนไม่มีการบีบตัวหรือหยุดเต้นทันที โดยไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า

blank ดร.นพ.กิติกร วิชัยเรืองธรรม อายุรแพทย์โรคหัวใจ รพ. พิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม