Header

มะเร็งช่องปาก

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

มะเร็งในช่องปาก

มะเร็งช่องปาก (Oral Cancer) เป็นโรคมะเร็งที่ติด 10 อันดับแรกของโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ส่วนใหญ่มีความรุนแรง และมีอัตราการเสียชีวิตสูง มากกว่าร้อยละ 50
มะเร็งช่องปาก หมายถึง มะเร็งของริมฝีปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม เหงือก พื้นช่องปาก และ เพดานปาก นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้ที่ทอนซิลด้านหลังช่องปาก ซึ่งเป็นต่อมผลิตน้ำลาย รวมถึงในบริเวณช่องคอที่เชื่อมต่อระหว่างปากกับหลอดลมหรือคอหอย แต่ที่พบบ่อยที่สุดเป็นชนิดที่เกิดจากเซลล์ของเยื่อบุผิวช่องปาก (Squamous Cell Carcinoma)
มะเร็งช่องปากเป็นมะเร็งที่พบได้ค่อนข้างบ่อย ในระยะแรก ๆ มักจะยังไม่มีอาการเจ็บปวด ทำให้ผู้ป่วยไม่ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องไปพบทันตแพทย์หรือแพทย์ ทำให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาล่าช้า ซึ่งการรักษาตั้งแต่ในระยะแรก ๆ จะช่วยให้มีโอกาสหายขาดจากโรคสูง

อาการของมะเร็งช่องปาก (Oral Cancer)

  1. มีรอยสีขาวคล้ายกำมะหยี่ แดง หรือรอยด่างสีแดงขาว ภายในช่องปาก
  2. เกิดอาการบวม มีแผล มีตุ่ม ก้อนเนื้อโตขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณริมฝีปาก เหงือก หรือส่วนอื่น ๆ ในช่องปาก 
  3. รู้สึกว่ามีอะไรติดอยู่ภายในลำคอ
  4. มีอาการด้านชาไร้ความรู้สึก หรือมีอาการเจ็บปวดอย่างไม่ทราบสาเหตุ บริเวณใบหน้า ปาก หรือลำคอ มีเลือดออกง่ายในช่องปาก อาการไม่ดีขึ้นภายในระยะเวลา 2 - 3 สัปดาห์
  5. เกิดการเปลี่ยนแปลงของตัวฟัน การสบฟัน ฝันโยก ฟันหลุด
  6. เจ็บคอเรื้อรัง รวมทั้งเสียงเปลี่ยน และเสียงแหบ
  7. มีอาการกลืนและเคี้ยวอาหารลำบาก พูดและอ้าปากได้น้อย เสียงเปลี่ยน เจ็บในหู
  8. น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว  อ่อนเพลีย

ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดมะเร็งช่องปาก

  • การสูบบุหรี่ ชิการ์ ยาเส้น ยาฉุน สามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดเซลล์มะเร็งมากกว่าผู้ที่ไม่สูบถึง 6 เท่า
  • การบริโภคยาสูบผ่านการเคี้ยว การสูดดม ก่อให้เกิดการพัฒนาเซลล์มะเร็งที่บริเวณเหงือก แก้ม หรือริมฝีปาก มากถึง 50 เท่า
  • ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ มีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ถึง 6 เท่า
  • การเคี้ยวหมากพลู  พบว่าในหมากมีสารก่อมะเร็งหลายชนิด
  • มีประวัติสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งมาก่อน
  • รังสียูวี (เฉพาะมะเร็งบริเวณริมฝีปากล่าง)
  • โรคติดเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirus) สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งศีรษะและลำคอมากที่สุด คือ เอซพีวี 16 โดยสามารถติดต่อจากการสัมผัส การมีเพศสัมพันธ์ทั้งทางปาก ช่องคลอด และทวารหนัก

 

การวินิจฉัยมะเร็งช่องปาก

แพทย์สามารถวินิจฉัยมะเร็งช่องปากได้จากข้อมูลประวัติ ปัจจัยเสี่ยง อาการ และการตรวจช่องปากและลำคอ การตรวจทางภาพรังสี และตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจเพื่อยืนยันการวินิจฉัยมะเร็งช่องปากก่อนที่จะวางแผนการรักษาต่อไป

 

การรักษามะเร็งช่องปาก

อาจใช้วิธีการใดวิธีหนึ่งหรือใช้หลายวิธีร่วมกัน ขึ้นกับชนิดและขนาด ตลอดจนระยะของโรคและวัตถุประสงค์ในการรักษา

  • การผ่าตัด เป็นการผ่าตัดนำเอาก้อนมะเร็งและเนื้อเยื่อรอบ ๆ ออก และมักจะต้องผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอออกด้วย
  • รังสีรักษา เป็นการใช้รังสีเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง บางครั้งอาจใช้ร่วมกับการผ่าตัดในรายที่มีข้อบ่งชี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษา
  • เคมีบำบัด เป็นการใช้ยาต้านมะเร็งหลายชนิดร่วมกัน เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งทั้งบริเวณก้อนเนื้องอกและเซลล์มะเร็งที่อาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย มักใช้ร่วมกับการผ่าตัดและรังสีรักษาในรายที่มีข้อบ่งชี้ 
  • การใช้ยาเจาะจงเซลล์มะเร็ง (Target Therapy) โดยยาจะเข้าไปหยุดยั้งการทำงานของโปรตีนในเซลล์มะเร็ง สามารถทำควบคู่ไปกับเคมีบำบัดหรือรังสีรักษา
  • การรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การรักษาด้วยวิธีทางภูมิคุ้มกัน (Immunotherapy) สำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปากที่จำเป็นต้องได้รับรังสีรักษาหรือเคมีบำบัด จะต้องได้รับการเตรียมช่องปากโดยทันตแพทย์ก่อนการรักษาเสมอ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะกระดูกกรามตายจากรังสี และป้องกันการติดเชื้อในกระแสโลหิตที่มีสาเหตุจากโรคเหงือกและฟันในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาเคมีบำบัด นอกจากนี้ผู้ป่วยยังจำเป็นต้องได้รับการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่องระหว่างและภายหลังการได้รับรังสีรักษาอีกด้วย

 

การฟื้นฟูสภาพภายหลังการรักษามะเร็งช่องปาก

ภายหลังจากรับการผ่าตัดและรังสีรักษาแล้ว ผู้ป่วยอาจมีความจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสภาพ เช่น การฝึกกลืน ฝึกอ้าปาก ฝึกพูด ใส่ฟันเทียม เป็นต้น

 

การตรวจติดตามผลการรักษาของมะเร็งช่องปาก

ภายหลังการรักษา ผู้ป่วยจะได้รับการตรวจติดตามผลเป็นระยะจนครบอย่างน้อย 5 ปี เพื่อตรวจว่ามีการกลับเป็นซ้ำของโรคมะเร็งหรือไม่

 

ภาวะแทรกช้อนของมะเร็งช่องปาก

โรคมะเร็งช่องปากและกระบวนการรักษาโรคสามารถก่อให้เกิดภาวแทรกซ้อนได้แล้วแต่กรณี ในบางครั้งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจในการดำเนินชีวิตประจำวัน

  • กลืนลำบาก (Dysphagia) หากพบมีปัญหาการกลืน อาจให้อาหารทางสายยางในระยะสั้น เพื่อช่วยให้บริโภคอาหารได้ง่ายขึ้น ลดความเสี่ยงการสำลักลงปอด นอกจากนี้อาจต้องรับการบริหารที่ช่วยพัฒนาการกลืนอาหาร เป็นต้น
  • ปัญหาในการพูด เกิดจากการใช้รังสีรักษาและการผ่าตัด ต้องรับการสอนหลักการออกเสียงใหม่
  • ผลกระทบทางอารมณ์ เช่น เกิดภาวะซึมเศร้า ซึ่งควรรีบเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์โดยทันที

 

การป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงมะเร็งช่องปาก

  • ลดความเสี่ยงในการทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก เช่น ลดการสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การเคี้ยวหมากพลู การสูบบุหรี่ ยาเส้น หรือ ยาฉุน
  • รับประทานอาหาร ผักและผลไม้หลากหลายชนิดที่อุดมไปด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ
  • ดูแลรักษาสุขภาพของช่องปากและฟันด้วยตนเองให้สะอาดอยู่เสมอ ควรพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและฟันสม่ำเสมอ หากมีความผิดปกติ เช่น ฟันผุ ฟันบิ่น ฟันปลอมหลวม ให้รีบพบทันตแพทย์
  • พยายามหลีกเลี่ยงรังสี UV โดยเฉพาะบริเวณริมผีปาก ด้วยการทาครีมกันแดดสำหรับริมฝีปากหรือการสวมหมวกปีกกว้างที่สามารถบดบังแสงแดดไม่ให้กระทบกับใบหน้าโดยตรง

 

หากมีคำถาม ข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็งช่องปาก ปรึกษาแพทย์

คลิกขอคำปรึกษา

 

ที่มา : สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ,สมาคมศัลยศาสตร์ช่องปากและแม็กซิลโลเฟเชียล แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ,โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภาภาชาดไทย ,สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร



แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

28 พฤษภาคม 2567

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Cancer)

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Cancer) เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในกระเพาะปัสสาวะที่มีการเจริญเติบโตแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเซลล์อย่างรวดเร็วและมากผิดปกติ จนกลายเป็นก้อนเนื้องอก และก้อนเนื้องอกนี้สามารถเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจเต็มกระเพาะปัสสาวะ ลุกลามไปยังอวัยวะและต่อมน้ำเหลืองข้างเคียง และแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดได้ หากตรวจพบโรคได้เร็วก็จะมีโอกาสหายได้สูง อย่างไรก็ตาม แม้จะตรวจพบได้ในระยะแรกและรักษาหายแล้ว แต่มะเร็งกระเพาะปัสสาวะก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้สูงเช่นกัน ในประเทศไทย มะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นมะเร็งที่พบมาก 1 ใน 10 อันดับแรก ของมะเร็งที่พบมากในเพศชาย โดยพบมากในช่วงอายุ 50-70 ปี

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

28 พฤษภาคม 2567

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Cancer)

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Cancer) เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในกระเพาะปัสสาวะที่มีการเจริญเติบโตแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเซลล์อย่างรวดเร็วและมากผิดปกติ จนกลายเป็นก้อนเนื้องอก และก้อนเนื้องอกนี้สามารถเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจเต็มกระเพาะปัสสาวะ ลุกลามไปยังอวัยวะและต่อมน้ำเหลืองข้างเคียง และแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดได้ หากตรวจพบโรคได้เร็วก็จะมีโอกาสหายได้สูง อย่างไรก็ตาม แม้จะตรวจพบได้ในระยะแรกและรักษาหายแล้ว แต่มะเร็งกระเพาะปัสสาวะก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้สูงเช่นกัน ในประเทศไทย มะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นมะเร็งที่พบมาก 1 ใน 10 อันดับแรก ของมะเร็งที่พบมากในเพศชาย โดยพบมากในช่วงอายุ 50-70 ปี

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

27 พฤษภาคม 2567

สูบบุหรี่ พฤติกรรมร้าย ทำลายหัวใจ

เสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย โดยส่วนใหญ่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุที่สำคัญ ผู้สูบบุหรี่มีโอกาสเสียชีวิตจากหัวใจวาย ในอายุประมาณ 30-40 ปี ซึ่งสูงกว่าผู้ไม่สูบถึง 5 เท่า สารพิษในควันบุหรี่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดทั่วร่างกาย

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

27 พฤษภาคม 2567

สูบบุหรี่ พฤติกรรมร้าย ทำลายหัวใจ

เสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย โดยส่วนใหญ่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุที่สำคัญ ผู้สูบบุหรี่มีโอกาสเสียชีวิตจากหัวใจวาย ในอายุประมาณ 30-40 ปี ซึ่งสูงกว่าผู้ไม่สูบถึง 5 เท่า สารพิษในควันบุหรี่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดทั่วร่างกาย

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม