Header

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Cancer)

28 พฤษภาคม 2567

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ผู้หญิงนั่งกุมท้องบนชักโครกปวดปัสสาวะเพราะเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Bladder Cancer) มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงเกือบร้อยละ 20 ซึ่งการตรวจพบและได้รับการรักษาตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น จะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในกระเพาะปัสสาวะที่มีการเจริญเติบโตแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเซลล์อย่างรวดเร็วและมากผิดปกติ จนกลายเป็นก้อนเนื้องอก และก้อนเนื้องอกนี้สามารถเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนอาจเต็มกระเพาะปัสสาวะ ลุกลามไปยังอวัยวะและต่อมน้ำเหลืองข้างเคียง และแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดได้ หากตรวจพบโรคได้เร็วก็จะมีโอกาสหายได้สูง อย่างไรก็ตาม แม้จะตรวจพบได้ในระยะแรกและรักษาหายแล้ว แต่มะเร็งกระเพาะปัสสาวะก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้สูงเช่นกัน

  • ในประเทศไทย มะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นมะเร็งที่พบมาก 1 ใน 10 อันดับแรก ของมะเร็งที่พบมากในเพศชาย โดยพบมากในช่วงอายุ 50-70 ปี
  • ข้อมูลล่าสุดจากการรวบรวมของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (Cancer in Thailand Vo. 10 2016-2018) พบผู้ป่วยรายใหม่ปีละ 2,497 คน เฉลี่ยวันละ 7 คน คิดเป็นร้อยละ 2 ของมะเร็งทั้งหมด โดยพบในเพศชายมากกว่าเพศหญิงประมาณ 3 ถึง 4 เท่า
  • มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงเกือบร้อยละ 20 ซึ่งการตรวจพบและได้รับการรักษาตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น จะสามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้

อาการของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะในระยะแรกมักไม่มีอาการแสดง อาจตรวจพบได้โดยบังเอิญจากการตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น พบเม็ดเลือดในปัสสาวะ อาการที่พบได้ในผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ คือ

  • ปัสสาวะเป็นเลือด ผู้ป่วยส่วนใหญ่ประมาณ 75-90% จะมาพบแพทย์ด้วยอาการปัสสาวะเป็นเลือด (มักเป็นสีแดงอ่อนหรือสีโค้ก ) มักจะเป็น ๆ หาย ๆ โดยไม่มีอาการเจ็บปวดร่วมด้วย หรือบางรายอาจมีเพียงอาการเลือดหยดออกมาตอนปัสสาวะสุด
  • บางครั้งอาจมีอาการคล้ายกระเพาะปัสสาวะอักเสบ (พบได้ประมาณ 20%) คือ ปัสสาวะบ่อย แสบ หรือขัดเนื่องจากเลือดที่ออกมาจับเป็นลิ่มในกระเพาะปัสสาวะ
  • ในระยะลุกลาม ผู้ป่วยมักมีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง อาจคลำได้ก้อนที่บริเวณหัวหน่าว และมีอาการแสดง

ภาวะแทรกซ้อนของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ที่อาจเกิดขึ้น

  1. ภาวะซีด
  2. เกิดโรคไตเรื้อรัง หรือภาวะไตวาย ซึ่งเกิดจากการลุกลามของโรคมะเร็งไปอุดตันท่อไต
  3. เกิดอาการท้องผูก เมื่อก้อนมะเร็งไปกดเบียดทับลำไส้ใหญ่
  4. คลำต่อมน้ำเหลืองได้ที่ขาหนีบหรือเหนือไหปลาร้า เมื่อโรคแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง
  5. มีอาการไอ หายใจลำบาก เมื่อโรคแพร่กระจายไปที่ปอด
  6. มีตับโต จากการกระจายไปยังตับ
  7. ปวดหลัง เมื่อโรคแพร่กระจายไปยังกระดูกสันหลัง
  8. มีอาการปวดกระดูก เมื่อโรคแพร่กระจายไปที่กระดูก

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

  • การสูบบุหรี่ หรือสูดดมควันบุหรี่เป็นประจำ เพราะควันบุหรี่มีสารก่อมะเร็งที่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิตและขับถ่ายออกทางกระเพาะปัสสาวะได้ การสูบบุหรี่จึงทำให้กระเพาะปัสสาวะสัมผัสกับสารก่อมะเร็งโดยตรง
  • การสัมผัสสารเคมี จากการประกอบอาชีพ และสิ่งแวดล้อม ได้แก่ สารเคมีที่มีส่วนประกอบของสารอะนีลีน (aniline) หรือไฮโดรคาร์บอน ที่มักใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตยาง สิ่งทอ เครื่องหนัง สี สายไฟฟ้า พลาสติก และสิ่งพิมพ์ เช่น สีย้อมผ้า สีย้อมผม อุตสาหกรรมเสื้อผ้า รวมถึงการบริโภคอาหารที่มีส่วนผสมของขันฑสกร อาหารหมักดองหรืออาหารแปรรูป ได้รับอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนสารหนู (สารอาร์ซีนิค Arsenic) เป็นเวลานาน
  • การติดเชื้อหรือระคายเคืองในกระเพาะปัสสาวะแบบเรื้อรัง และการอักสบเนื่องจากก้อนนิ่ว หรือการติดเชื้อพยาธิบางชนิด จะกระตุ้นให้เซลล์เยื่อบุในทางเดินปัสสาวะเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งขึ้น และผู้ที่เคยรักษามะเร็งอย่างอื่นด้วยวิธีการฉายแสงบริเวณอุ้งเชิงกราน หรือการรักษาด้วยเคมีบำบัดก็เป็นสาเหตุชักนำให้เกิดโรคนี้ได้

การตรวจวินิจฉัยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

  1. การตรวจหาเซลล์มะเร็งในปัสสาวะ (Urine Cytology) เป็นการตรวจที่ค่อนข้างง่าย โดยเก็บตัวอย่างปัสสาวะจากผู้ป่วย โดยตัวอย่างปัสสาวะควรเก็บจากการถ่ายปัสสาวะครั้งแรกในตอนเช้า การตรวจนี้มีความแม่นยำถึง 80% แต่มีความไว (Sensitivity หมายถึง ความสามารถในการตรวจพบโรคในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคจริง) ค่อนข้างต่ำเพียง 16%
  2. การตรวจอัลตร้าซาวด์ระบบทางเดินปัสสาวะ (Ultrasound KUB ) เป็นการตรวจความผิดปกติของระบบปัสสาวะ ซึ่งประกอบด้วยไต ท่อไต และกระเพาะปัสสาวะ
  3. การส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy) เป็นการตรวจที่สำคัญที่สุดในการวินิจฉัยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ สามารถตรวจหาตำแหน่ง ขนาด จำนวน และรูปร่างของเนื้องอก ซึ่งสามารถแยกชนิดได้ว่าเป็นมะเร็งชนิดลุกลามหรือไม่ลุกลาม และที่สำคัญที่สุด คือ การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจทางพยาธิวิทยาเพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคมะเร็ง
  4. การตรวจเอกซเรย์ปอด (Chest X-Ray) เพื่อดูว่ามีการกระจายของมะเร็งไปยังปอดหรือไม่
  5. การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ช่องท้อง (CT Abdomen) เป็นการตรวจเพื่อค้นหาการลุกลามของมะเร็งไปยังอวัยวะข้างเคียง ต่อมน้ำเหลือง และตับ รวมทั้งเป็นการประเมินระยะของมะเร็ง เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาให้การรักษาที่เหมาะสม
  6. การตรวจเอกซเรย์กระดูก (Bone Scan) เป็นการตรวจเพื่อดูว่า มีการกระจายของมะเร็งไปยังกระดูกหรือไม่ โดยเฉพาะในรายที่มีอาการปวดกระดูก หรือมีระดับแคลเซียมในเลือดสูงผิดปกติ

สัญญาณเตือนมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

  1. ปัสสาวะเป็นเลือด ถ้าเป็นรุนแรงอาจจะเป็นเลือดสด ๆ ถ้าไม่รุนแรงอาจมีสีเหมือนน้ำล้างเนื้อ หรือมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นแต่ตรวจพบเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะจากการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
  2. มีอาการปวดขณะเบ่งปัสสาวะ โดยปวดบริเวณท้องน้อยหรือปลายท่อปัสสาวะ
  3. ปัสสาวะบ่อยและมีความรู้สึกเหมือนจะปัสสาวะราดถ้าไปไม่ทัน บางครั้งปวดปัสสาวะแต่เวลาไปถ่ายกลับมีปัสสาวะออกเพียงเล็กน้อย หากมีอาการที่น่าสงสัยหรือมีอาการผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด

ระยะของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

ระยะของโรคมีความสำคัญในการพิจารณาเลือกวิธีกรรักษาที่เหมาะสม โดยแบ่งเป็น 4 ระยะ คือ

ระยะที่ 1 มะเร็งจำกัดอยู่ในชั้นเยื่อบุผนังด้านในของกระเพาะปัสสาวะ

ระยะที่ 2 มะเร็งมีการลุกลามเข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ

ระยะที่ 3 มะเร็งมีการลุกลามไปยังชั้นไขมันรอบกระเพาะปัสสาวะ

ระยะที่ 4 มะเร็งมีการกระจายไปยังอวัยวะข้างเคียง ต่อมน้ำเหลือง หรืออวัยวะอื่น ๆ

 

แนวทางการรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

การรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรค รวมถึงสุขภาพของผู้ป่วย ซึ่งแพทย์มักใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี

  • การผ่าตัดด้วยวิธีส่องกล้องผ่านท่อปัสสาวะ โดยตัดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะออกได้หมด เพื่อทำการวินิจฉัยและเป็นการรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะระยะไม่ลุกลาม นอกจากนี้ยังมีการใส่ยาเคมีบำบัด หรือยาที่ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำของโรค หลังการตัดชิ้นเนื้ออีกด้วย
  • การผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะผ่านช่องท้อง ในมะเร็งระยะลุกลามไปถึงผนังกระเพาปัสสาวะและวัยวะข้างเคียง จะรักษาโดยการผ่าตัดเอากระเพาะปัสสาวะพร้อมกับอวัยวะข้างเคียงส่วนที่มีโรคลุกลามออกไปจนหมด และนำเอาส่วนของลำไส้มาดัดแปลงเป็นกระเพาะปัสสาวะให้ใหม่ ผู้ป่วยจะยังคงถ่ายปัสสาวะได้ปกติทางท่อปัสสาวะ แต่บางรายจำเป็นต้องทำช่องทางถ่ายปัสสาวะออกทางปลายลำไส้ที่นำมาเปิดออกทางหน้าท้อง โดยขึ้นอยู่กับระยะของโรคและสภาวะการทำงานของไตของผู้ป่วย
  • เคมีบำบัด และ รังสีรักษา มักใช้รักษาหลังจากผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดแล้ว หรือใช้ร่วมกันในกรณีที่ไม่สามารถผ่าตัดได้

 

การป้องกันมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

  1. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะการสูบบุหรี่ก่อนนอน เพราะจะมีการคั่งค้างของสารก่อมะเร็งอยู่ในกระเพาะปัสสาวะเป็นเวลานาน
  2. หากปฏิบัติงานในโรงงานอุตสาหกรรมสี ยาง สายไฟฟ้า และพลาสติก ควรระวังขณะกินอาหารเพราะสีอาจติดมือปะปนอยู่ในอาหารได้ ฉะนั้นจึงควรล้างมือ ให้สะอาดก่อนกินอาหารทุกครั้ง
  3. เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีวิธีตรวจคัดกรองโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะตั้งแต่ระยะยังไม่มีอาการ ดังนั้นเมื่อมีอาการผิดปกติ โดยเฉพาะเมื่อมีเลือดปนออกมาในปัสสาวะ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่น ๆ

 

ที่มา : กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข , โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ , สถานวิทยามะเร็งศิริราช , คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , หน่วยสารสนเทศมะเร็ง โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ , คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล , สมาคมศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ , สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) , คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

หากมีคำถาม ข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ โปรดปรึกษาแพทย์

คลิกขอคำปรึกษา

 



ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์มะเร็งพิษณุเวช ฮอไรซัน

สถานที่

เวลาทำการ

เบอร์ติดต่อ

055-90-9000 ต่อ 520101, 520102

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

มะเร็งช่องปาก

มะเร็งช่องปาก เป็นมะเร็งที่ติด 10 อันดับแรกของมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ส่วนใหญ่มีความรุนแรง และมีอัตราการเสียชีวิตสูง มากกว่าร้อยละ 50 มะเร็งช่องปาก หมายถึง มะเร็งของริมฝีปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม เหงือก พื้นช่องปาก และ เพดานปาก นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้ที่ทอนซิลด้านหลังช่องปาก ซึ่งเป็นต่อมผลิตน้ำลาย รวมถึงในบริเวณช่องคอที่เชื่อมต่อระหว่างปากกับหลอดลมหรือคอหอย แต่ที่พบบ่อยที่สุดเป็นชนิดที่เกิดจากเซลล์ของเยื่อบุผิวช่องปาก (squamous cell carcinoma)

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
มะเร็งช่องปาก

มะเร็งช่องปาก เป็นมะเร็งที่ติด 10 อันดับแรกของมะเร็งที่พบมากที่สุดในประเทศไทย ส่วนใหญ่มีความรุนแรง และมีอัตราการเสียชีวิตสูง มากกว่าร้อยละ 50 มะเร็งช่องปาก หมายถึง มะเร็งของริมฝีปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม เหงือก พื้นช่องปาก และ เพดานปาก นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้ที่ทอนซิลด้านหลังช่องปาก ซึ่งเป็นต่อมผลิตน้ำลาย รวมถึงในบริเวณช่องคอที่เชื่อมต่อระหว่างปากกับหลอดลมหรือคอหอย แต่ที่พบบ่อยที่สุดเป็นชนิดที่เกิดจากเซลล์ของเยื่อบุผิวช่องปาก (squamous cell carcinoma)

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

27 พฤษภาคม 2567

สูบบุหรี่ พฤติกรรมร้าย ทำลายหัวใจ

เสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย โดยส่วนใหญ่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุที่สำคัญ ผู้สูบบุหรี่มีโอกาสเสียชีวิตจากหัวใจวาย ในอายุประมาณ 30-40 ปี ซึ่งสูงกว่าผู้ไม่สูบถึง 5 เท่า สารพิษในควันบุหรี่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดทั่วร่างกาย

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

27 พฤษภาคม 2567

สูบบุหรี่ พฤติกรรมร้าย ทำลายหัวใจ

เสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย โดยส่วนใหญ่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุที่สำคัญ ผู้สูบบุหรี่มีโอกาสเสียชีวิตจากหัวใจวาย ในอายุประมาณ 30-40 ปี ซึ่งสูงกว่าผู้ไม่สูบถึง 5 เท่า สารพิษในควันบุหรี่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดทั่วร่างกาย

blank โรงพยาบาลพิษณุเวช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม