Burnout เหนื่อยล้าเกินไป..สู่ภาวะหมดไฟ
30 มิถุนายน 2567
การทำงานหนักเกินไป และการสะสมความเครียดในชีวิตประจำวันอาจนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า
ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในคนทำงานปัจจุบัน
Burnout Syndrome ภาวะหมดไฟในการทำงาน คืออะไร?
ความหมายของ Burnout Syndrome
ภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout Syndrome) คือภาวะที่เกิดจากการทำงานหนักเกินไปและการเผชิญหน้ากับความเครียดเป็นเวลานานจนร่างกายและจิตใจไม่สามารถทนรับได้อีกต่อไป สภาวะนี้ทำให้บุคคลรู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีแรงจูงใจ และขาดประสิทธิภาพในการทำงาน
ประวัติและที่มาของ Burnout Syndrome
คำว่า “Burnout” เริ่มมีการใช้ในปี 1974 โดยจิตแพทย์ Herbert Freudenberger เพื่ออธิบายภาวะของผู้ที่ทำงานเป็นอาสาสมัครในสถานที่ที่ต้องเผชิญกับความเครียดสูง เช่น โรงพยาบาล ผู้ที่ได้รับผลกระทบมักจะรู้สึกหมดแรง และไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเต็มที่
สาเหตุของ Burnout Syndrome มาจากอะไร?
ความเครียดจากการทำงาน
- ภาระงานที่มากเกินไป: การทำงานที่ต้องใช้เวลานานและมีความเครียดสูง
- การขาดการสนับสนุนจากองค์กร: การไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อนร่วมงาน
- ความคาดหวังที่สูงเกินไป: การตั้งเป้าหมายที่ยากเกินไปหรือการต้องการทำงานให้สมบูรณ์แบบ
- สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ดี: ความขัดแย้งระหว่างเพื่อนร่วมงาน การขาดการสื่อสารที่ดี
ปัจจัยส่วนบุคคล
- การขาดสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน: การให้ความสำคัญกับงานมากเกินไปและไม่มีเวลาพักผ่อน
- การขาดทักษะในการจัดการความเครียด: การไม่สามารถจัดการกับความเครียดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การตั้งความคาดหวังจากตนเองที่สูงเกินไป: การต้องการทำงานให้สมบูรณ์แบบเสมอ
อาการของ Burnout Syndrome
อาการทางร่างกาย
- ความเหนื่อยล้าเรื้อรัง: รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา แม้จะได้รับการพักผ่อนเพียงพอ
- การนอนหลับที่ผิดปกติ: นอนหลับยาก หรือฝันร้ายบ่อยครั้ง
- อาการทางกายอื่น ๆ: ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร
อาการทางจิตใจ
- ความรู้สึกหมดแรง: รู้สึกไม่มีแรงจูงใจในการทำงาน หรือกิจกรรมที่เคยชอบ
- ความรู้สึกเบื่อหน่าย: ไม่มีความสนใจหรือความพึงพอใจในงานที่ทำ
- ความรู้สึกหดหู่: รู้สึกเศร้า หดหู่ หรือหมดหวัง
อาการทางพฤติกรรม
- การถอนตัว: หลบหนีจากการทำงาน หรือเลี่ยงการติดต่อกับผู้อื่น
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการทำงาน: ทำงานช้าลง หรือมีข้อผิดพลาดมากขึ้น
- การใช้สารเสพติด: อาจเริ่มใช้สารเสพติดหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อคลายเครียด
วิธีการป้องกัน Burnout Syndrome
การจัดการเวลาและภาระงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ควรจัดลำดับความสำคัญของงานและตั้งเวลาในการพักผ่อนให้เพียงพอ
การดูแลสุขภาพ
การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยป้องกัน Burnout Syndrome ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนหลับให้เพียงพอ
สร้างความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว การใช้เวลาทำกิจกรรมที่ชอบ หรือใช้เวลากับครอบครัวและเพื่อนฝูงจะช่วยลดความเครียด
จะรับมือกับ Burnout Syndrome อย่างไร?
จัดลำดับความสำคัญของงานและจัดการเวลาในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
การจัดลำดับความสำคัญของงานเป็นสิ่งสำคัญในการลดภาระงานและความเครียด ควรทำการจัดลำดับความสำคัญของงานและแบ่งเวลาสำหรับการพักผ่อนและการทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ
ตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้
การตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้และสมเหตุสมผล ช่วยลดความกดดันและความเครียด ควรแบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อยๆ และให้ความสำคัญกับการทำให้สำเร็จตามลำดับ
สร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน
แบ่งเวลาทำงานและเวลาพักผ่อนให้สมดุล ใช้เวลาในชีวิตกับเรื่องอื่นที่มีความสุข เช่น การให้เวลากับครอบครัว เอน และกิจกรรมที่ชอบและทำให้มีความสุข
หากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย
การหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น การออกกำลังกาย การทำโยคะ หรือการทำสมาธิ ช่วยลดความเครียดและเพิ่มความผ่อนคลาย
พูดคุยและปรึกษากับคนที่ไว้วางใจ
การพูดคุยและปรึกษากับคนที่ไว้วางใจ เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือผู้บังคับบัญชา เป็นสิ่งสำคัญในการลดความเครียดและการรู้สึกโดดเดี่ยว
เรียนรู้ที่จะพูดปฏิเสธและยอมรับในขีดจำกัดบางอย่างของการทำงาน
ยอมรับในขีดจำกัดบางอย่างของงานที่เราทำไม่ได้ เรียนรู้ที่จะพูดปฏิเสธเมื่อมีภาระงานที่มากเกินไป หรือไม่สามารถทำงานนั้นได้จริง และหาทางแก้ปัญหา/ขอความช่วยเหลือจากที่ทำงาน
การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หาช่องทางในการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักจิตวิทยา หรือนักบำบัด เป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับ Burnout Syndrome เมื่อรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถจัดการกับความเครียดและความเหนื่อยล้าได้
สรุป
Burnout Syndrome เป็นภาวะที่เกิดจากการทำงานหนักและความเครียดที่ยาวนาน สาเหตุหลักๆ ของ Burnout Syndrome ได้แก่ ความเครียดจากการทำงาน ความไม่สมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว และปัจจัยส่วนบุคคล อาการของ Burnout Syndrome สามารถแบ่งออกเป็นอาการทางร่างกาย จิตใจ และพฤติกรรม
การดูแลสุขภาพ การสร้างความสมดุลในชีวิต การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ การพักผ่อนและฟื้นฟู และการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต สามารถทำให้อาการของ Burnout Syndome ดีขึ้นได้
ในที่สุด การเข้าใจและยอมรับว่าตนเองอาจมีภาวะ Burnout Syndrome และการหาวิธีรับมือกับภาวะนี้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพในการทำงานอีกครั้ง
หากมีคำถาม ข้อสงสัย หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาวะหมดไฟในการทำงาน โปรดปรึกษาแพทย์
ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง
แผนกสุขภาพจิต
สถานที่
อาคาร 4 ชั้น 1
เวลาทำการ
08:00 - 17:00 น.
เบอร์ติดต่อ
055-90-9000 ต่อ 520101, 520102